ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554


                 
         เทคโนโลยีด้านระบบสารสนเทศที่ช่วยสร้างสารสนเทศ

               DBO ย่อมาจาก Direct Booking Online ซึ่งเป็นซอฟแวร์ในการจองห้องพักออนไลน์สำหรับโรงแรมที่มีความแตกต่างจากซอฟแวร์ทั่ว ๆ ไป เป็นทางเลือกใหม่ที่แตกต่างจากการจองโรงแรมแบบเดิม ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บเอกสารกองโตของลูกค้า อีกทั้งยังมีโอกาสที่ข้อมูลลูกค้าจะสูญหายจากการบริหารจัดการแบบเดิม
               ซอฟแวร์ DBO online reservation นี้นั้นเป็นระบบซอฟแวร์การจองโรงแรมที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานไม่ยุ่งยาก ทำให้กระบวนการในการจองโรงแรมง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจของคุณได้โดยไม่ติดขัดอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
                DBO System เป็นซอร์ฟแวร์เพื่อใช้กับระบบ Online Booking ที่สามารถตอบรับรูปแบบในการใช้งาน Online Booking ที่หลากหลาย. DBO ให้สิทธิ์สำหรับลูกค้าของทางโรงแรมสามารถที่จะจองห้องพักเมื่อใดก็ตามที่ต้องการ โดยตรงกับทางโรงแรม การจองถูกวางรูปแบบขั้นตอนที่ง่ายดาย และไม่สลับซับซ้อน
                ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากหันมาใช้บริการรูปแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจองโรงแรม การจองตั๋วชมภาพยนตร์ คอนเสริ์ต หรือไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยว และด้วยการใช้งาน DBO คุณสามารถที่จะกระตุ้นยอดขายออนไลน์ให้กับบริษัทของคุณ ตามเทรนด์การใช้บริการรูปแบบออนไลน์ และบริการรูปแบบออนไลน์นั้นหมายถึง ต้นทุนของธุรกิจของคุณลดลง การจ่ายค่า commission ให้กับ third party ก็จะหมดไป Interface และ function ในการใช้งาน DBO นั้นทำให้เกิด user experience ได้อย่างรวดเร็ว เพราะด้วยการออกแบบที่ทำให้เกิดความเข้าใจง่าย และมีการตอบสนองให้กับลูกค้าในทันทีทีลูกค้าต้องการใช้บริการ ไม่ต้องรออีเมลล์ตอบกลับ สะดวกสบายต่อทั้งลูกค้าและโรงแรมเอง หากมองในส่วนของค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณอยากจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับธุรกิจของคุณ เป็นการลงทุนที่จะได้รับผลตอบแทนโดยไม่ต้องรอเหมือนธุรกิจอื่น ๆ เพราะว่าคุณจะได้รับผลกำไรครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้อย่างรวดเร็วระบบการบริการจัดการลูกค้าเก่าที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ และระบบการบันทึกข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณสามารถที่จะรักษากลุ่มลูกค้า และทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษเหนือกว่า และรู้สึกปลอดภัย ที่ได้ใช้บริการของทางโรงแรมผ่านทางระบบการจัดการบันทึกข้อมูลลูกค้ารายบุคคลด้วยซอฟแวร์นี้คุณไม่มีความจำเป็นจะต้องลงทุนกับระบบการบริหารงานลูกค้า (Customer Relation Management: CRM) และระบบการบริหารการตลาดออนไลน์ ในต้นทุนที่สูง การติดตั้งระบบ DBO รวดเร็วและง่ายในการประสานเข้ากับเว็บไซด์ของทางโรงแรม คุณสามารถจะเริ่มการรับจองโรงแรมได้โดยทันที นั้นก็หมายถึงว่าคุณสามารถเริ่มธุรกิจของคุณได้ทันทีไม่มีข้อติดขัดแต่ประการใด




                สามารถที่จะสร้าง และประมวลผลรายงาน รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ นั้นสามารถที่จะอัพเดทได้ตลอดเวลาผ่านระบบออนไลน์ ราคา รูปแบบการให้บริการ และข้อจำกัดต่าง ๆ ตามระเบียบปฏิบัติ หรือกลยุทธ์ของทางโรงแรมนั้นสามารถปรับแก้ไขได้ และที่สำคัญที่สุดนั้นในส่วนของสถานภาพการจองนั้นจะถูกอัพเดทอัตโนมัติ ตรวจสอบแก้ไขได้ตามความต้องการ
ระบบการทำงานของตัว DBO System
-                   ง่ายในการใช้งานและปรับแก้ไข เพิ่มเติม จัดการได้สะดวก รวมถึงการดูแลรักษาระบบป้องกันได้รับมาตรฐาน
-                   สามารถเพิ่มเติมห้องพักเพื่อขายตรงสำหรับโรงแรม
-                   สามารถเพิ่มเติมห้องพักเพื่อขายตรงสำหรับโรงแรม
-                   ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของช่วงเวลา รูปแบบห้อง รูปแบบเตียงและบริการอื่นๆ
-                   ไม่มีข้อจำกัดในส่วนของชนิดของ Package ที่ทางโรงแรมจัดเตรียมสำหรับลูกค้า
-                   สามารถบริหารโปรแกรมส่งเสริมการขาย "early bird" และ "last minute" ไม่เสียรายรับในส่วนของ commission fee
-                   Function การใช้งานสะดวกสบาย ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
-                   ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ตที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก Secure Server : SSL
-                   ระบบ Data Center ใช้มาตรฐานการบริหารของการสื่อสารแห่งประเทศ (CAT)
-                   สามารถ เพิ่ม-ลด จำนวนห้องที่ถูกกำหนดให้ขายในแต่ละช่องทางการขาย (Allotment)
-                   สามารถดำเนินการในส่วนของการตลาดทางอินเตอร์เน็ต(Internet marketing service) ได้อย่างง่าย
-                   สามารถจัดลำดับความสำคัญ ของผู้ใช้ได้ตามนโยบายของโรงแรมในส่วนของหน้าจอ
-                   แสดงผลสำหรับลูกค้า และโรงแรมนั้น ง่ายต่อความเข้าใจและสวยงาม

ประโยชน์ที่โรงแรมจะได้รับ

-                   ยอดขายเพิ่มขึ้น ได้รับประโยชน์มากขึ้น และได้รับผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น
-                   เป็นการสร้างมาตรฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการบริการของทางโรงแรม
-                   การเปลี่ยนแปลงของราคาห้องพักขึ้นอยู่กับทางโรงแรม ราคาเป็นแบบ Flat rate และไม่มีค่า commission รวมถึงมีการรับประกันส่วนแบ่งการตลาด (Guarantee revenue) คุณไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายหากไม่มีการขายผ่านทางระบบ
-                   ในส่วนของ Internet Marketing นั้นเว็บไซด์ของทางโรงแรมที่ถูกโฆษณาผ่านทาง www.directbookingnline.com คุณสามารถที่จะโฆษณา ประชาสัมพันธ์ รายการส่งเสริมการขายพร้อม Banner เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า หรือต้องการที่จะส่งข่าวสารให้ทางลูกค้าก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ประโยชน์ที่แขกผู้เข้าพักจะได้รับ

-                   สะดวกสบายสำหรับลูกค้าที่ต้องการจองห้องพักโดยตรงกับทางโรงแรม
-                   แขกผู้เข้าพักสามารถเช็คผลการจองได้ทันที รวมถึงสามารถเช็คสถานะของห้องพักที่ต้องการจองได้อีกด้วย
-                   แขกผู้เข้าพักจะได้รับ DBO reward ในการสะสมเพื่อแลกรับรางวัลจากทาง www.directbookingonline.com
-                   แขกผู้เข้าพักสามารถที่จะเช็คสถานการณ์จอง ดูรายละเอียดการจองที่ผ่านมา หรือจะยกเลิกการจองผ่านทางระบบก็สามารถทำได้
สร้างขีดความสามารถสูงสุดให้กับเว็บไซด์
DBO     system     สามารถที่จะให้ลูกค้าที่ต้องการจองห้องพักสามารถจองผ่านทางโรงแรมได้โดยตรง และระบบสามารถจะส่งยืนยันห้องพักได้ Real time ลูกค้าสามารถจะจองห้องพักโดยไม่ต้องรออีเมลล์หรือแฟกซ์ตอบกลับระหว่างลูกค้าและพนักงานของทางโรงแรม (Reservation Staff)
ระบบตรวจสอบความถูกต้องในการใช้บัตรเครดิตในการจองห้องพัก
              
DBO ใช้โปรแกรมตรวจสอบความถูกต้องของบัตรเครดิตโดยเฉพาะในเวลาที่ลูกค้ามีการจองห้องพัก สามารถมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งาน และโรงแรมสามารถมั่นใจได้ว่าสามารถจะดำเนินธุรกรรมได้
ระบบยืนยันการจองของลูกค้า
               
DBO   มีระบบการส่งอีเมลล์แจ้งลูกค้าที่ได้จองห้องพักผ่านทางระบบ  โดยที่ลูกค้าจะทราบรายละเอียดทั้งหมด โดยไม่มีข้อสงสัยในการจองในแต่ละครั้ง
ระบบแจ้งเตือนการจองห้องพัก
               
DBO system มีระบบการแจ้งเตือนไปสู่ผู้ดูแลระบบ เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อระหว่างลูกค้าและทางโรงแรม
ระบบหน้าจอจัดการของผู้ดูแลระบบ
               
DBO มีระบบแสดงหน้าจอของทางผู้ดูแลระบบให้ใช้งานง่าย รวดเร็วและสะดวกสบาย เพื่อให้สามารถบริหารจัดการห้องพักและราคาได้ตลอดเวลา
DBO System Modules
1. Booking system
  • ห้องพัก และ Package ต่าง ๆ
  • เลือกห้องและตรวจสอบความถูกต้องในการเลือกRoom select and review
  • บริการเสริมเพิ่มเติมต่างๆAdditional service
  • ข้อมูลส่วนตัว และระบบการชำระเงิน
  • ระบบการยืนยัน และตอบกลับผลการจองอัตโนมัติ
2. Guest Support
  • ข้อมูลของลูกค้าที่เข้าพัก
  • ประวัติการใช้บริการของลูกค้า
  • ระบบการจองสำหรับลูกค้า (Guest booking service)
  • ระบบการแลกรับคะแนนในการใช้บริการแต่ละครั้ง (DBO reward)

3. Hotel Back office
  • Hotel Configuration
    • รายละเอียดของทางโรงแรม
    • ชนิด/รูปแบบ ของห้องพัก
    • ชนิด/รูปแบบของเตียง
    • ช่วงเวลาในการเข้าพัก
    • รายการส่งเสริมการขายPromotion
    • บริการเสริมเพิ่มเติม
    • ชนิดของ Package
    • รูปแบบการชำระเงิน
    • การเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลห้องพัก
  • Report
    • รายงานรายละเอียดและสรุปห้องพัก
    • รายงานรายได้ที่ได้รับในแต่ละวัน เดือน ปี
  • Payment confirmation
    • มีการแบ่งแยกในส่วนของรายการที่ได้รับการยืนยันและที่ถูกยกเลิก
    • การรายงานการสรุปผล
  • Admin page
    • หน้าจอของผู้ดูแลระบบในการบริการจัดการระบบ                                                                                             http://www.dbo-system.com/freetrial.html                                           

เทคโนโลยีใหม่ด้าน การสื่อสารข้อมูล


เทคโนโลยี 4G ( Forth Generation )
เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะนี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว สำหรับ 4จี จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที
ลักษณะเด่นของ 4G
4G คือ Forth Generation ซึ่งในบ้านเรายังไม่มีให้เห็นกัน? เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีสื่อสารในยุค 4G?เรื่องความเร็วนั้นเหนือกว่า 3G มาก? คือทำความเร็วในการสื่อสารได้ถึงระดับ 20-40 Mbps? เมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้จาก 3G นั้นคนละเรื่องกันเลยที่ญี่ปุ่นนั้นเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี 4G สามารถให้บริการรับชมรายการโทรทัศน์ผ่านมือถือได้แล้วหรือจะโหลดตัวอย่างภาพยนตร์มาชมบนโทรศัพท์มือถือก็มีให้เห็นเช่นกัน ทำไมญี่ปุ่นถึงรีบกระโดดไปสู่ยุค 4G กันเร็วเหลือเกิน คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ดิจิตอลคอนเทนต์ เป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนั่นเอง เมื่อผู้ให้บริการหลายหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายที่มีความเร็วสูงสามารถรับส่งข้อมูลได้ในปริมาณมาก ๆ ดังนั้น การผลักดันตัวเองให้เข้าสู่ยุค 4G ที่ใช้เทคโนโลยีที่เหนือกว่า3G ก่อนคู่แข่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด
ความโดดเด่นของ 4G  คือ ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนเครือข่ายที่กินพื้นที่กว้างก็ได้หรือจะทำเป็นเครือข่ายขนาดย่อม ๆ แบบ WLAN ได้อีกด้วย? นั่นจึงทำให้หลายคนมองว่า 4G จะมาเบียดเทคโนโลยีของ Wi-Fi หรือไม่ เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งสองแบบ?
อย่างไรก็ตามในประเทศไทยยังคงอิงกับมาตรฐานของ 3G อยู่ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับขยายไปสู่ยุค 4G เลย เพราะว่า Wimax กำลังเข้ามานั่นเอง?ระบบสื่อสารแห่งอนาคตที่ให้ความยืดหยุ่นสูง สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างไกล? ความเร็วในการสื่อสารสูงสุดในขณะนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำไมไม่รวมเทคโนโลยี 3G กับ WiMAX เข้าด้วยกัน และพัฒนาให้เป็น interim 4G? หรือ ?4G เฉพาะกิจ? เพื่อไปเร่งพัฒนา ?4G ตัวจริง (Real 4G) กันออกมาไม่ดีกว่าหรือ จึงเป็นเสียงที่คิดดังๆจากหลายกลุ่มในปัจจุบัน
แน่นอนที่ว่า คงจะไม่ใช่แนวคิดของ 4G ที่หลายฝ่ายตั้งความหวังไว้ เพราะอย่างน้อยที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ เทคโนโลยีทั้งสองยังไม่สามารถรองรับความเร็วในการสื่อสารข้อมูลที่ดาวน์ลิงค์/อัพลิงค์ (downlink/uplink) ขณะกำลังเคลื่อนที่ในกรณีของ GSM ที่ 100 mbps/50 mbps และกรณี CDMA ที่ต้องการให้เหนือกว่า GSM โดยจะให้มีความเร็วเป็น 129 mbps/75.6 mbps
ทำไมจึงอยากได้ 4G
เป็นคำถามที่น่าสนใจ มีเหตุผลอะไรจึงอยากได้เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่ 4 หรือ 4G กันมาก ถ้าจะสรุปเป็นคำตอบก็คงจะได้หลายประการด้วยกัน ซึ่งจะกล่าวถึงพอเป็นสังเขปดังนี้
1. สนับสนุนการให้บริการมัลติมีเดียในลักษณะที่สามารถโต้ตอบได้ เช่น อินเทอร์เน็ตไร้สาย และ เทเลคอนเฟอเรนซ์? เป็นต้น
2. มีแบนด์วิทกว้างกว่า? สามารถรับ-ส่งข้อมูลด้วยอัตราความเร็ว (bit rate) สูงกว่า 3G
3. ใช้งานได้ทั่วโลก (global mobility) และ service portability
4. ค่าใช้จ่ายถูกลง
5. คุ้มค่าต่อการลงทุนด้านโครงข่าย

พัฒนาการของ 4G สำหรับมาตรฐานต่างๆ
หากพิจารณาในบริบทของมาตรฐานเทคโนโลยีระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูลาร์แบบดิจิทัลที่ใช้งานกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ค่ายใหญ่ๆ คือ จีเอสเอ็ม (GSM) และ ซีดีเอ็มเอ (CDMA) แล้วสามารถสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบลำดับพัฒนาการของมาตรฐานได้ดังตารางข้างล่างนี้




ในการพัฒนาเทคโนโลยี 4G ของ GSM กับ CDMA นั้น ยังคงแข่งขันกันอยู่ต่อไป กล่าวคือGSM จะพัฒนาสู่ 4G โดยใช้รูปแบบการเข้าถึง (access type) เป็น UMTS LTE (Universal Mobile Telephone System  Long term Evaluation) คาดหมายว่า จะสามารถทำความเร็วในการดาวน์ลิงค์ / อัพลิงค์ได้ที่ 100 mbps / 50 mbps
ในขณะที่ CDMA ใช้รูปแบบการเข้าถึงเป็น CDMA EV-DO Rev.C (กล่าวคือ เป็น UMB หรือ Ultra-mobile broadband) และมีความเร็วในการดาวน์ลิงค์ / อัพลิงค์ที่ 129 mbps / 75.6 mbps
ตัวเลขความเร็วของทั้งสองค่ายจะเป็นราคาคุยหรือไม่คงต้องติดตามผลกันต่อไป
หาก 4G จะเกิดจากการรวม WiMax เข้ากับ 3G
 ท่ามกลางกระแสการแข่งขันระหว่างเทคโนโลยี 3G ที่กำลังถูกเทคโนโลยีใหม่อย่างไวแมกซ์ (WiMAX) เข้ามาตีเสมอ และในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสมาเหนือกว่า 3G อีกด้วย?นักวิเคราะห์และผู้เกี่ยวข้องในวงการโทรคมนาคมหลายกลุ่ม กล่าวกันถึงขนาดที่ว่า ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เซลลูลาร์ของหลายประเทศที่ปัจจุบันครองตลาดส่วนใหญ่ของประเทศหรือมีอำนาจเหนือตลาดคงจะไม่ยอมให้บริการไวแมกซ์เกิดขึ้นในตลาดได้ง่ายๆ?ประกอบกับบางประเทศยังมีปัญหาต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการให้บริการไวแมกซ์ เช่น แผนเลขหมายแห่งชาติที่มีการจัดสรรความถี่ให้กับบริการไวแมกซ์ กฎ ระเบียบในการกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและมีการแข่งขันที่เป็นธรรม และความพร้อมในการลงทุนของผู้ให้บริการ เป็นต้นหากจะรวมกันจริงๆแล้ว หลายฝ่ายยังมีความเชื่อว่า 3G คงจะไม่ถึงกับไปรวมอยู่ใต้เทคโนโลยีที่เป็นหนึ่งเดียว ?เนื่องจาก 4G ควรจะเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงได้ที่ระดับความเร็วอิเธอร์เน็ต (เช่น 10 Mbps) และใช้งานร่วมกัน (integrated) ได้ทั้งในลักษณะที่เป็นเครือข่ายท้องถิ่นหรือแลน (LAN  local area network) กับแวน (WAN ? wide area network) แบบไร้สาย ด้วยการรวมเทคโนโลยี 3G และ WiMAX เข้าด้วยกันในเครื่องเดียวกัน
โดยมาตรฐานของ WiMax หรือ 802.16 สามารถให้บริการด้านบรอดแบนด์ไร้สายได้ไกลถึง 30 ไมล์ด้วยความเร็วประมาณ 10 Mbpsสิ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่สำหรับบริการ WiMAX มีหลายประการที่ต้องมีการพัฒนาต่อไปจากที่สามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้ในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ตัวมาตรฐานเองที่ยังไม่ค่อยนิ่งเท่าใดนัก การพัฒนาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของโครงข่าย (ซึ่งรวมถึงตัวเครื่องลูกข่ายด้วย)?การเคลื่อนที่ของลูกข่ายจากสถานีฐานหนึ่งไปยังอีกสถานีฐานหนึ่งโดยไม่มีปัญหาสายหลุดหรืออาการสัญญาณสะดุด เป็นต้น
จึงเป็นที่เชื่อได้ว่าในขณะนี้คงต้องรอให้มาตรฐานเทคโนโลยี WiMAX ผ่านกระบวนการพัฒนาจนถึงขั้นเป็นมาตรฐานที่สมบูรณ์ (mature) แล้ว อาจเป็นไปได้ที่จะมีความพยายามนำเทคโนโลยี 3G และ WiMAX มาผสมผสานกันเป็น 4G หากกลุ่มที่พัฒนา 4G ไม่รีบชิงพัฒนา 4G หนีการรวมตัวกับ WiMAX ไปเสียก่อน